นิ่วในถุงน้ำดี เจ้าตัวร้ายที่มาพร้อมอาการปวดท้อง

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ

ครั้งแรกกับการมารีวิวการนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลของตัวเอง จ่ายเองและเอาตัวขึ้นเขียงเองไม่มีสแตนอิน

มู่เป็น ‘นิ่วในถุงน้ำดี’ ค่ะ ซึ่งอาการนี้ไม่สามารถสลายนิ่วได้โดยการทานยาสลายนิ่วเหมือนที่กระเพาะปัสสวะ วิธีเดียวคือผ่าออก ซึ่งการผ่ามีให้เลือก 2 แบบด้วยกันคือผ่าแบบธรรมดาเปิดท้องมาแล้วตัดน้องถุงน้ำดีออกชับๆๆ

หรือแบบที่ 2 กรีดหน้าท้องและเจาะรูทั้งหมด 4 รูแล้วส่องกล้องเข้าไปเพื่อตัดถุงน้ำดีออกมา ซึ่งแน่นอนว่าวิธีนี้แผลเล็กกว่า เจ็บน้อยกว่า และที่สำคัญคือ แพงกว่า!!

รพ.ประจำตัวค่ะ เป็นอะไรก็มาหาที่นี่

แน่นอนค่ะว่ามู่ผ่าแบบที่ 2 เพราะเหตุผลดีๆ ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น(จริงๆ แล้วไม่อยากเจ็บตัวเยอะ) วันนี้มาลองทำความรุ้จักกับโรคนี้กันดูนะคะ

นิ่วในถุงน้ำดีคืออะไร?

หลายคนคงสงสัยว่ามันเหมือนกันไหมกับนิ่วในที่ต่างๆ เช่นกรวยไต หรือกระเพาะปัสสาวะ ขอตอบตรงนี้เลยค่ะว่าไม่เหมือนที่อื่นๆ ยังพอสลายได้โดยการทานยาหรือเลเซอร์ต่างๆ แต่ถ้าเป็นที่ถุงน้ำดีคือตัดให้ขาดเลยชับๆๆๆ สถานเดียวเท่านั้นค่ะ

นิ่วในถุงน้ำดี เกิดจากภาวะไม่สมดุลของสารประกอบในน้ำดี ซึ่งเมื่อมีนิ่วเกิดขึ้นแล้ว อาจมีอาการตั้งแต่ ท้องอืด อาหารไม่ย่อย บางครั้งนิ่วไปอุดท่อถุงน้ำดี ทำให้มีอาการปวดแบบปวดดิ้น หรือถ้านิ่วตกลงไปอุดท่อน้ำดีใหญ่ จะทำให้มีอาการตัวเหลืองตาเหลือง ในบางรายอาจตรวจพบนิ่วในถุงน้ำดีแต่ไม่มีอาการได้เช่นกัน แต่อาการดังกล่าวข้างต้นจะเกิดเมื่อใดก็ได้ ในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งถุงน้ำดี พบว่ามีนิ่วร่วมด้วยเป็นส่วนใหญ่  นิ่วในถุงน้ำดี ไม่สามารถรักษาได้โดยใช้เครื่องสลายนิ่ว การรักษาโดยใช้ยาละลายนิ่วใช้ได้เฉพาะนิ่วบางชนิดเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ต้องรับประทานยาเป็นเวลานาน และเมื่อหยุดยาก็อาจเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้อีก อีกทั้งนิ่วของคนไทยส่วนมากมักไม่ละลายโดยใช้ยา ดังนั้นการรักษาที่ดีที่สุด คือการผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก ซึ่งการตัดถุงน้ำดี ไม่มีผลต่อการย่อยอาหาร เพราะน้ำดีสร้างมาจากตับ ถุงน้ำดีเป็นเพียงที่เก็บพักน้ำดีเท่านั้น

เช้าวันแรกหลังการผ่าตัดส่องกล้อง อากาศเย็น แสงสวยเชียวค่ะ

วิธีการผ่าตัดภายใต้กล้อง

– เจาะรูเล็กๆ บริเวณหน้าท้อง 4 แห่ง ด้วยเครื่องมือที่ออกแบบเฉพาะสำหรับการเจาะหน้าท้องอย่างปลอดภัย ขนาดของรูประมาณ 0.5 ซม. 3 ตำแหน่ง และขนาด 1 ซม.ที่สะดืออีก 1ตำแหน่ง

– ใส่กล้องที่มีก้านยาวๆ และเครื่องมือต่างๆผ่านรูที่ผนังหน้าท้องลงไป ศัลยแพทย์จะสามารถมองเห็นถุงน้ำดีและอวัยวะต่างๆจากจอโทรทัศน์ซึ่งกล้องส่งสัญญาณภาพมา

– ศัลยแพทย์สามารถเลาะแยกถุงน้ำดีออกจากตับ และใช้คลิปหนีบห้ามเลือดแทนไหมเย็บแผล ก่อนตัดขั้วของถุงน้ำดี แล้วเลาะส่วนที่เหลือให้หลุดออก

– เมื่อตัดถุงน้ำดีได้แล้ว บรรจุใส่ถุงที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ แล้วดึงออกจากร่างกายบริเวณรูสะดือ จากนั้น ศัลยแพทย์จะสำรวจความเรียบร้อยเป็นขั้นตอนสุดท้าย ก่อนดึงเครื่องมือและกล้องออกแล้วเย็บปิดแผล

– ในผู้ป่วยบางรายถ้ามีการอักเสบมาก อาจต้องมีการใส่ท่อระบายไว้ 2-3 วัน

ผลดีของการผ่าตัดถุงน้ำดีภายใต้กล้อง

– อาการปวดแผลหลังผ่าตัดน้อยกว่า เพราะแผลมีขนาดเล็กกว่า

– อยู่โรงพยาบาล ประมาณ 1-2 วัน ซึ่งถ้าผ่าตัดแบบเดิม อยู่โรงพยาบาล ประมาณ 7-10 วัน

– การพักฟื้นหลังผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ทำให้กลับไปทำงานตามปกติได้เร็วกว่า ถ้า ผ่าตัดแบบเดิม ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1 เดือน

– แผลขนาดเล็กดูแลง่ายกว่า และมีโอกาสติดเชื้อน้อยกว่าแผลขนาดใหญ่

– เมื่อแผลหายจะเป็นรอยเล็กๆ บนหน้าท้องเท่านั้น

ยังร่าเริงยิ้มได้ ไม่กลัวอะไรใดๆ เล้ย!!!

เริ่มต้นคือวันอาทิตย์ที่ 15 หลังเที่ยงคืนก็งดน้ำและอาหารค่ะ จากนั้นพยาบาลก็เข้ามาเจาะเลือดเพื่อเช็ค Type และโรคติดต่อต่างๆ จากกระแสเลือด (อาทิ โรคเอดส์)เช้าวันที่ 16 เวลาดี 9.39 น. ก็มีบุรุษพยาบาลเข็นเตียงพาเข้าห้องผ่าตัด เริ่มโดนมัดมือ คุณหมอวิสัญญีาคุยด้วยคำสองคำ แล้วก็….(จอดับ ภาพตัดไป)   เวลา 15.00น. ตื่นมาพร้อมกับอาการหนาวสั่น ทั้งปากทั้งฟันกระทบกันแบบหยุดตัวเองไม่ได้ พยาบาลถามว่าหายใจเองไหวไหมคะ ตอบไปว่า ไหวค่ะ โดนย้ายเตียงจากเตียงผ่าตัดมาเป็นเตียงที่เข็นขึ้นห้องเหมือนในหนังคือ เอาเตียงมาต่อกันแล้วใช้การดึงผ้าปูตัวให้ไถลไปอีกเตียง จากนั้นถึงห้องโดนอีกรอบ แอร่ก!

สลบเหมือด ปากบวมเฉิ่งเพราะท่อช่วยหายใจ

เวลา 15.30 น. หนาวสั่นหยุดไม่อยู่ พยาบาลเอาผ้าห่มกระหน่ำห่มให้เหมือนธารน้ำใจจากใต้สู่เหนือสู้ภันยหนาว ประมาณ 4-5 ผืน ปิดแอร์ถึงได้หลับไปอีกรอบ

เวลาจะเข้าห้องน้ำต้องถอดปลั๊กข้างหลังนี้

จากนั้นก็หลับๆ ตื่นๆ อยู่อีก ประมาณ 2 วัน ก็เดินซ่าได้ตั้งแต่วันที่ 2 ที่ผ่า มู่ได้กลับบ้านเมื่อวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคมค่ะ กลับมาบ้านได้ 2 วันเมื่อวานไปซิ่งเดอะมอลล์มาแล้ว อาการมันดีขึ้นเร็วมากจริงๆ

ลงจากเตียงเองได้ สบายมาก ^^

แต่ความรู้สึกหนึ่งที่รู้สึกได้คือดีขึ้นทุกครั้งที่ตื่นขึ้นในเช้าอีกวันหนึ่ง วันแรกเจ็บแผลระบมลุกไม่ไหว แต่พอวันที่ 2 อาการก็ดีขึ้นมาก ลุกยืนได้ เดินไปเข้าห้องน้ำได้ วันที่ 3 ไม่ต้องให้พยาบาลมาดึงสายน้ำเกลือให้แล้ว ถอดเอง ลุกเอง เดินเองได้หมด แต่แค่เหนื่อยง่าย ทุกอย่างต้องค่อยๆ ทำเท่านั้น

หลังจากถอดน้ำเกลือก็ต่อสายใหม่เอาไว้แค่ฉีดยา
จะได้ไม่ต้องพรุนกันหลายๆ รอบ ^^

ตอนนี้ก็เหลือแค่พักฟื้น ซึ่งคุณหมอบอกว่าแผลแบบนี้พักฟื้นแค่อาทิตย์เดียวก็สบายแล้วค่ะ ยังไงก็จะรักษาตัวให้ดีขึ้นรับปีใหม่ที่จะถึงพอดี อ่อ….อีกอย่างค่ะ หลังผ่าแล้วอย่าลืมเดินยืดตัวให้ตรงนะคะ ไม่งั้นพังผืดมันจะดึงให้เราตัวงอทีนี้จะเสียบุคลิกภาพได้ค่ะ

MUMUUSTORY

Instagram: mumuustory

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.