ทำไมคนที่ไม่อยากมีบางทีก็มีกันจังเลย แต่พอตัวเองอยากมีกลับมียากจัง
เราแต่งงานกับสามีมา 2 ปีแล้ว แต่ก็ไร้วี่แววเจ้าตัวเล็กมาตลอด รวมกับปัญหาสุขภาพหลายอย่างด้วยหลังจากปล่อยตามธรรมชาติมานานแล้วก็เลยตั้งใจว่าจะไปปรึกษาเรื่องวางแผนครอบครัวเพื่อให้อยู่ในการดูแลของแพทย์ดีกว่า ทีนี้ก่อนไปหาคุณหมอ อย่างแรกต้องประเมินสุขภาพตัวเองคร่าวๆ ก่อน ว่ามีคุณหมอท่านไหนที่เกี่ยวพันกับการรักษาในครั้งนี้บ้าง
สุขภาพโดยรวม
1. สำคัญมาก! เรื่องโรคประจำตัวที่เป็นหรือเคยเป็น เพราะมีผลเกี่ยวพันกับการรักษา อย่างเราเคยเป็นโรค DVT (เส้นเลือดดำอุดตันที่ขาขวา) มาก่อน เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว รักษาหายเรียบร้อย ไม่ต้องไปพบแพทย์ประจำแล้ว แต่หากต้องการมีบุตรก็ต้องเข้าไปพบเพื่อทำการปรึกษาเรื่องนี้ก่อน หากคุณหมออนุญาตก็ขอใบรับรองแพทย์มาเพื่อประกอบการวินิจฉัยได้เลยค่ะ
2. รวบรวมรายละเอียดเพื่อแจ้งกับคุณหมอที่เราไปปรึกษาให้ครบถ้วนว่าเราเคยเป็นโรคอะไรมาบ้าง เพื่อให้คุณหมอดูว่ามีผลเกี่ยวข้องกับการมีบุตรหรือไม่ อีกอย่างจะได้สบายใจและปลอดภัยกับตัวคุณแม่เองด้วย
3. หากเป็นไปได้ลองให้คุณพ่อไปตรวจนำเชื้อเก็บไว้ก่อนก็ได้ค่ะ เพื่อเป็นข้อมูลให้คุณหมออ่านผลและวินิจฉัยได้ในครั้งเดียว(บางโรงพยาบาลไม่มีบริการตรวจน้ำเชื้อให้ ต้องลองโทรไปสอบถามก่อนเข้าไปรับบริการนะคะ)
เมื่อได้เอกสารครบถ้วนแล้วก็เริ่มปฏิบัติการได้เลยค่ะ จริงๆ แล้วของมู่เองเสียเวลาตรงที่ไม่มีข้อมูลอะไรมาก่อน มู่เริ่มต้นจากการเข้าไปปรึกษาแพทย์เรื่องการตั้งครรภ์ที่ปิยการุณก่อน จากนั้นถึงแจ้งโรคประจำตัว กลายเป็นว่าต้องไปปรึกษาคุณหมอเรื่องโรค DVT ก่อน เหมือนเป็นการเช็คว่าสุขภาพของเราตอนนี้สามารถตั้งครรภ์ได้หรือไม่ และมีภาวะอะไรที่ต้องระวังบ้าง รวมไปถึงมีการป้องกันอย่างไรได้บ้าง ซึ่งตรงนี้ค่อนข้างเสียเวลานั่นจึงเป็นเหตุผลที่กล่าวข้างต้นว่าควรปรึกษาเรื่องโรคประจำตัวก่อน จากนั้นคุณหมอโรคประจำตัวจะออกจดหมายว่าเราสามารถรักษาเรื่องการมีบุตรยากได้เพื่อนำไปสู่การรักษาขั้นต่อไปค่ะ
หลังจากได้จดหมายมาแล้วเนื่องจากการรักษาที่รพ.เก่าของมู่ในเรื่องของการมีบุตรไม่ตรงกับความต้องการ เลยได้คำปรึกษาจากเพื่อนๆ หลายคนซึ่งแนะนำคุณหมอสุวิทย์ ศุภภิญโญพงศ์ จากศูนย์รักษาภาวะมีบุตรยากค่ะ จึงย้ายมาเริ่มปรึกษาใหม่ที่ รพ. พญาไท3 โดยมู่รวบรวมเอกสารทั้งจดหมายอนุญาต ใบตรวจน้ำเชื้อของสามี ให้คุณหมอ กลายเป็นว่าการปรึกษาครั้งนี้ราบรื่นมากค่ะ ในครั้งแรกที่เข้าไปปรึกษาคุณหมอก็มีการตรวจเลือดของตัวเราและสามี รวมถึงการตรวจภายในเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย
โดยคุณหมอสรุปผลให้ฟังว่า ในมดลูกของเรามีถุงน้ำชนิดหนึ่ง ที่เรียงตัวกันเหมือนลูกประคำอยู่ทั้งสองข้าง ทำให้เกิดผลที่ตามมาคือ สิวขึ้น อ้วนง่าย และประจำเดือนมาไม่ปรกติ (ตรงทุกอย่าง แม้จะยังไม่ได้เล่าให้คุณหมอฟัง) ร่วมกับมีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ด้วย หลังจากตรวจและวินิจฉัยเรียบร้อยแล้ว คุณหมอแนะนำแนวทางการรักษาโดยการทานยาปรับประจำเดือน แล้วจึงให้ยากระตุ้นการตกไข่ เป็นวิธีแรก ซึ่งถือว่าเป็นโชคดีที่การรักษาครั้งแรกด้วย วิธีแรกก็ได้น้องมาเป็นของตัวเองสมใจค่ะ
แต่เพราะเคยเป็นโรคเลือดมาก่อน พอท้องแล้วก็ต้องมีวิธีการดูแลตัวเองอีกหลายอย่างเลยล่ะค่ะ รวมถึงต้องดูแลเจ้าตัวเล็กในท้องด้วย เดี๋ยวในบล็อกหน้าจะมาเล่าให้ฟังเรื่องหลังจากทราบว่าตั้งครรภ์แล้วทำอะไรต่อไปนะคะ ^^
