จะว่าไปแล้วทริปที่เดินทางโดยเครื่องบินล่าสุดคือ ทริปไต้หวันมื่อตอนท้องได้ 3-4 เดือน จากนั้นก็ห่างเหินการบินมานานเลย จนตอนนี้อลันได้ 5 เดือนแล้ว พอดีคุณพ่อมีต้องเดินทางไปทำงานที่เชียงใหม่ก็เลยถือโอกาสติดสอยห้อยตามกันไปซะเลย
แต่การจะห้อยตามกันไปแบบชิลๆ เห็นที่จะไม่ง่ายเลยค่ะ เพราะมี ‘เจ้าอ้วน’ วัย 5 เดือนที่กำลังร้องเสียงดังได้ที่ ห้อยตามไปด้วย เลยกลายเป็นเรื่องตื่นเต้นให้ปะป๊าและหม่าม้าลุ้นเหงื่อแตกไปตามๆ กัน วันนี้เลยจะมาแชร์ประสบการณ์การเดินทางโดยเครื่องบินกับเด็ก 5 เดือนและไอเท็มจำเป็นที่ต้องมีเวลาเดินทางนะคะ
5 อย่างต้องเตรียมสำหรับการเดินทางกับเด็กทารก
จากคนที่เคยเดินทางชิลๆ ไม่พกกระเป๋าใบใหญ่ เดินออกจาก gate ก็ตัวปลิวไปโรงแรมได้เลยไม่เคยต้องรอกระเป๋า พอลองจัดของรอบแรกดูแล้วกลายเป็นว่าต้องโหลดกระเป๋ามัน 2-3 ใบ แถมน้ำหนักกระเป๋าเกือบเกินอีกต่างหากดังนั้นต้องกลับมาตั้งสติกันใหม่แล้วหาตัวช่วย
เสื้อผ้า ผ้าอ้อม ผ้ากันเปื้อน ผ้าเช็ดตัว ผ้าอ้อมสำเร็จรูป
มาถึงเสื้อผ้าของน้อง เลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ แต่เตรียมเสื้ออุ่นๆ ไว้ให้น้องใส่ตอนขึ้นเครื่องเผื่อบางลำที่เปิดแอร์แรงจะได้ไม่หนาวเกินไป ที่สำคัญควรเตรียมเสื้อผ้าในพอดีวันที่เดินทางและเผื่อเอาไว้สำรองอีกนิดหน่อยเผื่อเปรอะเปื้อนและต้องการเปลี่ยน
Tips: มู่เลือกชุดหมีไปเป็นส่วนใหญ่เพราะหยิบใช้ได้เลยและไม่เปลืองพื้นที่จัดเก็บเท่าไหร่
อุปกรณ์อาบน้ำและยาสำหรับเด็ก
เตรียมสบู่อาบน้ำขวดเล็กๆ ไปรวมถึงอุปกรณ์ทำความสะอาดร่างกายต่างๆ อาทิ ผ้าเช็ดปาก บีแพนเทน สำลี คอตตอนบัต รวมถึงยาจำเป็น อย่างเช่น มหาหิงค์ ยาลดไข้ และ AirX drop เป็นต้น
เอากล้วยน้ำว้าที่โรงแรมมาบดให้กิน อ้วนชอบมาก กินจนเลอะทั้งหน้าเลยลูกเอ้ย
ขวดนมและFood Feeder แบบพกพา
เนื่องจากอลันเริ่มทานอาหารบ้างแล้ว มู่เลยเตรียม food feeder ไปให้น้องด้วยค่ะ เอาไว้ใส่ผลไม้เช่น กล้วย มะละกอ ให้น้องทานมื้อเย็น ส่วนขวดนมก็เตรียมไปเผื่อจำเป็นต้องใช้
แค่ 2 ขวดเท่านั้นค่ะ เพราะปกติแล้วน้องจะดูดจากเต้ามากกว่า

ที่ปั๊มนมแบบพกพาและถุงใส่น้ำนม
สำหรับคุณแม่ๆ ที่พกของไปเยอะแล้ว เครื่องปั๊มแบบพกพาเป็นอะไรที่ดีมาก เพราะน้ำหนักเบาพกพาสะดวก มู่ปั๊มนม 2 รอบ ตอนเช้ากับก่อนนอนเลยยังต้องพกเครื่องปั๊มนมไปด้วย ส่วนถุงใส่นมพอปั๊มเสร็จก็เก็บไว้เผื่อให้น้องทานเลย แต่ไม่ได้ขนกลับตอนขากลับด้วย
เครื่องฆ่าเชื้อด้วยแสงยูวีแบบพกพา
แปรงทำความสะอาดขวดปั๊มนมแบบพกพาได้
แปรงทำความสะอาดขวดนมแบบพกพาได้ มู่เอาขวดแบ่งเล็กๆ มาใส่น้ำยาล้างขวดนม สะดวกพกพาดีค่ะ
อุปกรณ์ทำความสะอาดและน้ำยาทำความสะอาด
พอเอาเครื่องปั๊มและขวดนมไปแน่นอนว่าต้องมีการล้างกันเกิดขึ้น น้ำยาล้างขวดนม แนะนำว่าให้เทใส่ขวดเล็กๆ กะให้พอใช้กับจำนวนวันที่เราเดินทางก็พอค่ะ ส่วนอุปกรณ์ล้างขวดนม มู่ซื้อแบบพกพามาซึ่งจะบอกว่าสะดวกมาก มี 3 ชิ้นที่ซื้อเพิ่มเติมมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ คือที่ล้างขวดนมพกพา ที่ล้างที่ปั๊มนมพกพา และเครื่อง UV Sterilize แบบพกพา ซึ่งเวิร์คมากๆ
โอเคค่ะ จากกระเป๋า 3 ใบ ของทั้งหมดนี้กระเป๋าใบใหญ่ 1ใบสามารถบรรจุได้หมดแล้วค่ะ ใช้เพียงแค่ครึ่งเดียว อีกครึ่งหนึ่งเป็นเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ของพ่อและแม่ค่ะ ประหยัดกระเป๋าไปได้ 2 ใบทีเดียว
จองตั๋วเครื่องบินกับลูกทาง Call Center
เอาล่ะค่ะ ได้เวลามาจองตั๋วเครื่องบินกัน เนื่องจากเดินทางในประเทศแล้วก็จองใกล้เวลามากๆ เรียกว่าก่อนเดินทางแค่ไม่กี่วันเท่านั้น วิธีการจองตั๋วที่มีเด็กทารกเดินทางด้วย(คือไม่ได้แยกเก้าอี้นั่งกับผู้ปกครอง) ต้องโทรจองที่ Call center ไม่สามารถจองผ่านเว็บไซต์ได้นะคะ เพราะชื่อบนตั๋วของน้องจะไปรวมกับชื่อของผู้ปกครองบนบัตรโดยสารทำให้ระบบขึ้นเตือนว่าชื่อยาวไปและไม่สามารถทำการจองได้นั่นเอง
ส่วนของที่ต้องติดไปบนเครื่องมีตามนี้ค่ะ
สูจิบัตรตัวจริงหรือพาสปอร์ต
เป็นอันดับแรกสำหรับคนที่จะพาน้องเดินทางโดยเครื่องบินนะคะ ซึ่งหลังจากเดินทางและพกสูจิบัตรขนาดใหญ่ที่เป็นกระดาษบางๆ ไปไหนมาไหนแล้วรู้สึกกังวลมาก ถ้าเป็นไปได้คุณแม่ท่านไหนที่มีเวลาแนะนำให้พาน้องไปทำพาสปอร์ตเก็บไว้สักเล่ม พกพาสะดวกและแข็งแรงทนทานกว่ามากๆ เลย
ของเล่นที่ลูกชอบ
อลันเป็นเด็กที่มีของเล่นไม่เยอะค่ะ เพราะส่วนใหญ่จะเล่นกับพ่อแม่มากกว่า ของเล่นที่น้องติดและคุ้นเคยมีแค่ไม่กี่อย่าง พอขึ้นเครื่องก็ติดขึ้นไปด้วยหมดเลย ตอนอยู่บนเครื่องก็หลอกล่อด้วยของเล่นแต่ละอย่างวนไปซึ่งก็ได้ผลดี พอน้องเริ่มเบื่อชิ้นนึงก็ควักอีกชิ้นนึงขึ้นมาแทน
รถเข็นและเป้อุ้ม
เป้อุ้มเป็นอีก 1 ไอเท็มที่ขาดไม่ได้เพราะคล่องตัวและสะดวกกับการพาเจ้าตัวเล็กไปไหนมาไหนมากๆ รวมถึงรถเข็น มู่เอา GB Pockit ไปเพราะน้ำหนักเบา และพับเก็บได้เล็ก สะดวกกับการขนย้ายและพับใส่บนที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะบนเครื่องได้
Tips: อัพเกรทอีกนิดชีวิตดีขึ้น
ขาไปมู่เดินทางโดย Thai Smile ค่ะ ซึ่งที่นั่งค่อนข้างแน่นเพราะเป็นวันหยุด มู่นั่งติดกับผู้โดยสารอีกท่านหนึ่งซึ่งก็ค่อนข้างเกรงใจมาก แต่ยังโชคดีที่อลันไม่ร้องงอแง พ่อแม่นี่เกรงตั้งแต่เครื่องยังไม่ออกจนเครื่อง landing เลยค่ะ ซึ่งค้นพบว่าการเดินทางตอนคนเยอะๆ เหนื่อยมากเพราะการที่เรากลัวลูกร้อง ต้องทั้งลุ้นทั้งหลอกล่อทำให้พ่อแม่ให้พลังเยอะมาก แต่ในส่วนของขากลับมู่เปลี่ยนตั๋วเป็น Premium Economy เพื่อจะได้ที่นั่งใกล้ทางออกและมีที่ว่างเพิ่มมากขึ้น รวมถึงสามารถใช้ lounge เอาไว้พาตัวเล็กไปนั่งพักก่อนขึ้นเครื่องได้ด้วย ข้อดีคือพอคนไม่เยอะน้องก็จะไม่ค่อยงอแง สงบสติอารมณ์ได้ดี ที่สำคัญคือพ่อแม่ก็สามารถผลัดกันไปหาอะไรทานระหว่างรอขึ้นเครื่องได้ด้วย เสียเงินเพิ่มอีกนิดหน่อยแต่ชีวิตดีขึ้นกว่าขาไปมากๆ

เอาล่ะค่ะ นี่ก็เป็นไอเท็มที่รวบรวมมาแล้วว่าช่วยชีวิตแม่ให้สบายขึ้นตอนต้องเดินทางกับเด็กน้อยวัย 5 เดือนได้ ใครมีคำแนะนำอะไรดีๆ ก็สามารถคอมเมนท์ไว้ หรือมาคุยกันได้ที่นี่ค่ะ