จากคราวที่แล้วหม่าม้าพาอลันวัย 5 เดือนขึ้นเครื่องบินได้อย่างราบรื่น คราวนี้มีโจทย์ใหม่ให้ตื่นเต้นกว่าเดิมเนื่องจากคุณพ่อน้องเดินทางไปทำงานที่สิงคโปร์ ตอนแรกก็คุยกันว่าเราคงไม่ตามไปหรอกเพราะกลัวว่าอลันจะไปกรี๊ดบนเครื่องบิน หม่าม้าเลยตัดสินใจอยู่รอปะป๊าที่บ้าน แต่มาเปลี่ยนใจเอาวันที่ปะป๊าอยู่สิงโปร์แล้วว่า เออ…ไหนๆ ก็ไม่ได้เที่ยวนานแล้ว ก็ไปมันซะหน่อยแล้วกัน พอเปลี่ยนใจปุ๊บ ความตื่นเต้นก็มาเยือนเพราะคราวนี้ไม่ได้บินพร้อมปะป๊า แต่จะเป็นการเดินทางของหม่าม้ากับอลันสองคนเป็นครั้งแรก!!!
หลับก่อนขึ้นเครื่องซะหน่อย ตื่นพร้อมลุยละคร้าบ
หลังจากตัดสินใจแล้วว่าจะไป อย่างแรกที่ต้องทำคือการจองต่างๆ นานา โชคดีอย่างนึงคือเราพาลูกไปทำพาสปอร์ตไว้เรียบร้อยแล้ว พอถึงคราวต้องใช้ก็หยิบใช้ได้เลย ครั้งนี้เราเลือกเดินทางโดยเที่ยวบิน CX717 ของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก ซึ่งต้องบอกว่าเป็นไฟล์ทที่ประทับใจมากตั้งแต่การโทรไปจองกับ call center (เพราะนามสกุลของแม่บวกกับลูกยาวเกินไปในระบบจองออนไลน์ใส่ไม่ได้จ้า) ที่ให้ความช่วยเหลือและให้คำแนะนำอย่างดี ไปจนตลอดการเดินทางเลยค่ะ
Tips:
หากคุณแม่ๆ ต้องเดินทางกับลูกน้อยเพียงลำพังโดยไม่มีคุณพ่อไปด้วยแล้วล่ะก็ ต่อให้มีพาสปอร์ตแล้วก็ต้องพกสูติบัตรไปด้วยทุกครั้งนะคะ ยกเว้นว่าคุณแม่นามสกุลเดียวกันก็ข้ามข้อนี้ไปได้เลยค่า
ถึงเวลาเดินทางอิแม่ก็หอบหิ้วทั้งลูกวัย 11 เดือนน้ำหนัก 9 โล พร้อมกับกระเป๋าเดินทางหนัก 25 โล รถเข็น และกระเป๋าถือขึ้นเครื่องอีกประมาณเกือบ 10 โลที่ในนั้นเต็มไปด้วยข้าว นม ของใช้และของเล่นโปรดของลูกที่ต้องพกไปหลอกล่อระหว่างการเดินทาง ซึ่งแค่เริ่มต้นด้วยการนั่งแท็กซี่ไปสุวรรณภูมิด้วยเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ของเล่นก็สำคัญมากแล้วค่ะให้ลูกเล่นวนไปฆ่าเวลาแก้เบื่อ
พอมาถึงอย่างแรกที่ทำคือโหลดกระเป๋าค่ะ ผลักสัมภาระให้พ้นตัว โหลดทั้งกระเป๋าและรถเข็นเลยค่ะ เหลือไว้แค่ลูก(อย่าเผลอโหลดลูกลงเครื่องนะคะ 55) และกระเป๋าถือค่ะ จากนั้นเข้าเกทหาที่นั่งรอ boarding ที่ lounge ไปถึงก็พาลูกไปล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนผ้าอ้อม ส่วนแม่ก็ขอทานน้ำเย็นๆ สักแก้วแล้วก็ไปป้อนนมลูกต่อ ทำอะไรต่อมิอะไรเสร็จก็ถึงเวลา boarding พอดี คราวนี้แหละลุ้นจริงๆ แล้ว(กลัวอลันไปกรี๊ดบนเครื่องมากๆ) แต่ปรากฎว่าผิดคาด! หรือเตรียมตัวมาดีอันนี้ก็ไม่แน่ใจ แต่ที่รู้คืออลันให้ความร่วมมือดีมากๆ เล่นของเล่นไป เสียงดังนิดหน่อย นอนหลับอีกนิดหน่อย และที่แม่แปลกใจมากคือยอมกินปลานึ่งซีอิ๊ว(อาหารบนเครื่อง)ทั้งที่อาหารปกติยังไม่ค่อยจะยอมกินเลย จนคิดแล้วว่ากลับบ้านไปเดี๋ยวเจอกันแน่นอนเมนูนี้
ChitChat:
ต้องบอกว่าทริปนี้ประทับใจ คาเธ่ย์แปซิฟิก มากๆ ค่ะ ตั้งแต่โหลดกระเป๋า ไปจนแอร์โฮสเตสเลย คือพอเห็นว่าเป็นคุณแม่เดินทางพร้อมเด็กทารกก็ให้ความช่วยเหลือดีมากๆ ทั้งยกของ เก็บของ เสิร์ฟอาหาร คอยมาถามสารทุกข์สุขดิบว่าแม่ยังไหวอยู่ไหม มาช่วยหลอกล่ออลันให้แม่ได้ผ่อนคลายความเกร็งบ้าง หรือแม้แต่เอาผ้าห่มมาให้เพราะเห็นอลันหลับแล้ว รวมไปถึงตอนรอรับกระเป๋าอยู่ข้างๆ กันก็วิ่งมาช่วยยกกระเป๋าให้อีกพร้อมพาไปรับรถเข็นเสร็จสรรพ(รถเข็นไปออกตรงสายพาน ood size จ้า แม่หาไม่เจอว่าสายพานอยู่ไหน)
พอ landing แล้วการมีเด็กไปด้วยทำให้ทุกอย่างค่อนข้างไวมากเพราะมี piority lane อิแม่นี่เดินช้ามากเพราะหอบลูกหนัก 9 โลไปพร้อมกับกระเป๋าอีกเกือบ 10 โล แต่ออกไปรับกระเป๋าได้อย่างไวพอๆ กับลูกเรือเลยทีเดียวค่ะ ได้กระเป๋าปุ๊บออกมาก็เจอปะป๊ายืนยิ้มแป้นรอรับอยู่หน้าประตู ดูหน้าก็รู้แล้วว่าคิดถึงลูกใจจะขาด พอไปถึงหม่าม้าเลยส่งลูกให้อย่างไว