ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาเราเพิ่งได้ค้นพบบางเรื่องว่า ทุกอย่างไม่ได้เป็นตามที่ใจเราคาดหวังเสมอไป มันอาจจะเป็นเมื่อไหร่ก็ได้…ที่พร้อม
ป่าวค่ะ….ยังไม่ได้จะมีลูกอีกคนนะคะ แต่ที่พูดถึงคือเรื่องของเจ้าลูกชายคนเดิมนี่แหละค่ะ คือปีที่แล้วเราพยายามมากที่จะให้เค้าทำหลายๆ อย่าง แต่อย่างที่บอกแหละ บางอย่างมันก็ไม่เป็นไปตามใจเราหรอก…จนบางครั้งก็เกิดคำถามว่า ทำไม…ทำไม….และทำไม เมื่อไหร่ลูกเราจะทำ…ได้สักทีนะ?
ยกตัวอย่างเรื่องการนั่งคาร์ซีท เราและสามีพยายามกันอยู่ตลอดให้ลูกนั่งคาร์ซีทด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่จนแล้วจนรอด อลันก็ยังไม่ยอมนั่งคาร์ซีทซักที ทุกครั้งที่เห็นเปิดประตูเจอหน้าคาร์ซีทปั๊บอาการเด้งผึงก็กำเริบขึ้นมาซะอย่างงั้นแหละ ถ้าไม่อารมณ์ดีจริงๆ ก้นไม่มีทางแตะคาร์ซีทได้เลย ฟังดูแล้วไม่เห็นทางเลยใช่มั้ยคะ ว่าอลันจะลงเอยกับคาร์ซีทได้ยังไง?
จริงๆ แล้วเราก็พยายามกันมาอย่างต่อเนื่องนะในเรื่องนี้ ล่าสุดช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา พี่เลี้ยงอลันลากลับบ้าน(และไม่กลับมาอีกเลย) พ่อแม่ก็เลยต้องอยู่กับอลันเต็มเวลา ตอนที่กำลังพาขึ้นรถกันเป็นปกติก็พาไปแตะๆ คาร์ซีทหน่อย ปรากฎว่าเจ้าตัวยอมนั่งขึ้นมาเฉยๆ แล้วก็นั่งได้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงตอนนี้
เลยทำให้พ่อแม่มั่นใจว่าอลันนั่งคาร์ซีทได้อย่างแน่นอนแล้ว ไม่ได้มีการบังคับ ไม่ได้มีการหลอกล่อ ไม่ได้มีการสั่งหรือบังคับใดๆ สิ่งที่พ่อและแม่ทำคือแค่ให้ลองไปเรื่อยๆ
แล้วสุดท้ายเมื่อเค้าพร้อมเค้าก็แค่ ‘ทำได้เอง’ ง่ายๆ แบบนี้เลยค่ะ เหตุการณ์คาร์ซีทนี่ทำให้พ่อแม่ประหลาดใจมาก จนสุดท้ายมานั่งคิดกันดีๆ จริงๆ แล้วมันมีหลายเหตุการณ์ที่อลันเริ่มทำอะไรได้เอง ‘เมื่อเค้าพร้อม’ เช่น กินข้าว เดิน ปีน เรียก หรือพูด


บางครั้งแม่ๆ อย่างเราก็ชอบยึดติดกับตารางพัฒนาการเด็กตามอินเตอร์เน็ตมากกว่าความพร้อมของลูกเราเอง และอย่างเลี่ยงไม่ได้…บางครั้งตารางนี้ก็ทำให้เราเครียดแล้วเผลอเอาไปเป็นความกดดันให้ตัวเองและลูกไปอีก
แต่สุดท้ายแล้วการไม่บังคับ ไม่ได้แปลว่าชิลปล่อยไปเลย แล้วหวังว่าเดี๋ยวเค้าก็ทำได้เองแหละในวันนึง แต่มันคือการ encourage ให้เค้าทำไปเรื่อยๆ คอยช่วยเหลือและกระตุ้นไปแล้วก็เชื่อมั่นในตัวลูกของเราว่าสักวันนึงเค้าก็จะทำได้ด้วยตัวเอง
สู้ๆ นะคะแม่ๆ ทุกคน