ถ้าย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ก่อน บอกเลยค่ะ ว่าไม่อยากแม้แต่จะออกจากบ้าน ==

ทำไมนะเหรอ….?

หน้าแย่ค่ะ ที่สำคัญสิวอุดตันขึ้นมาเพียบเลย แล้วยิ่งต้องแต่งหน้าก็ยิ่งรู้ว่ามันกำลังจะแย่ลงสุดท้ายทนไม่ไหวเลยคิดจะพึ่งมือหมอ

นึกขึ้นได้ว่ามี Voucher ของ Hertitude ที่ได้มาเมื่อครั้งเขาเปิดคลีนิกแต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเลยหมายมั่นเอาไว้ว่าที่นี่แหละ ลองดู!!!

ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์กดเบอร์โทรจากหลังVoucher ปลายสายรับเร็วทันใจพร้อมด้วยเสียงหวานๆ ค่ะๆ ทุกคำ(ทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราเป็นสื่อมวลชน)แม้กระทั่งเราบอกว่า เราจะใช้ Voucher นะคะ เขาก็ยังค่ะๆ ด้วยสุ้มเสียงเหมือนเดิมไม่มีการรังเกียจรังงอนใดๆ แถมยังช่วยให้คำแนะนำอย่างดีเป็นอันว่านัดวันและเวลากันเสร็จเรียบร้อย แถมยังนัดคุณหมออาร์ม นายแพทย์วรพจน์ ศิรามังคลานนท์ Medical Diectorและผู้ก่อตั้งเฮอร์ทิจูด ให้ด้วย (สุดท้ายก็บอกไปว่าเป็นสื่อมวลชนเลยเป็นอันว่านัดครั้งนี้ไปทำสวยด้วย และทำงานด้วย)

ตั้งตารอจนในที่สุดก็ถึงวันนัด เราไปถึงพอดีเวลาเป๊ะๆ คลีนิกตั้งอยู่เลยทองหล่อ ซ.9 ไปนิดเดียวเท่านั้น สถานที่สะอาดสะอ้านสุดๆ ค่ะ เข้าไปคร้งแรกนึกว่าเป็นอารมณ์ Marie France แอบหวั่นใจจะมีขายคอร์สป่าวนิ!!!

พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ต้อนรับอย่างดี ดูเป็นมิตรและเอาใจใส่สุดๆ จนแอบเขินนิดๆ

นั่งรอสักพักก็ได้พบกับคุณหมออาร์ม หือออ!!! นึกว่าคุณหมอจะดูมีอายุกว่านี้ ที่ไหนได้คุณหมอยังหนุ่มอยู่เลย แถมคุยสนุกเป็นกันเองมากๆ

เรื่องแรกที่ได้คุยเป็นเรื่องที่ทำคอลัมน์ไว้ใน Celeb Blog ที่ Praew.com เกี่ยวกับการกระชับสัดส่วน (อ่านได้ที่ สวยได้ไม่เจ็บตัวด้วย Body Contouring)

คุณหมอตอบคำถามชัดเจนและเข้าใจง่ายสุดๆ แล้วก็บอกข้อดี-ข้อเสียชัดเจนเช่น แพงนะ ทำหลายครั้ง อันนี้เจ็บนิดนึง อันนี้หมอก็ลองทำเองมาเรียกว่าคุยเพลินจริงๆ

ว่าแล้วก็ถึงเวลาทำสวย ประทับใจคุณหมออีกครั้งตรงที่ว่าคุณหมอไม่ได้เหมือนคลีนิกที่เราหาคนเยอะๆ ทั่วๆ ไป

คุณหมอจับหน้า ดูสภาพผิว ซักถามรายละเอียดการใช้ชีวิตประจำวันเป็นขั้นๆ เลย

แต่งหน้าไหม?

ใช้อะไรล้างหน้า?

ล้างเสร้จแล้วทำอะไรต่อ?

ครีมบำรุงใช้แบบไหน?

งดอะไรบ้าง?

คุณหมอก็วินิจฉัยออกมาว่า มีสิวอุดตันเม็ดเล็กๆ ฝังอยู่ใต้ผิวหน้าเยอะมาก แล้วจะกำจัดด้วยการทำเลเซอร์

หน้าตาตื่น!!! O_0″ เคยไปทำเลเซอร์ที่อื่นมา เจ็บโพด!!! ยิงๆๆ พรุนทั้งหน้า ทาขี้ผึ้งหน้ามันอยู่อีก 3 วัน == คุณหมอขาไม่เอาได้ไหม ทั้งหมดนี้ได้แต่คิดในใจไม่กล้าถามว่าแล้วก็เดินตามคุณหมอไปทำเลเซอร์(เหมือนเข้าแดนประหาร)

แต่เนื่องจากครั้งนี้ต้องมาลองโปรแกรมใหม่ของคุณหมอที่มีชื่อว่า DNA Repair ด้วย (อ่านเรื่อง DNA Repair เพิ่มเติมที่นี่ค่า)

คุณหมออาร์มก็เลยปรับขั้นตอนบางอย่างให้เหมาะกับสภาพผิวหน้าด้วยคือเปลี่ยนขั้นตอนการยกกระชับไปเป็นการเลเซอร์สิวโดย Acne Clear Laser แทน หลังจากนอนอยู่บนเขียง เอ้ยเตียงแล้ว ลบเครื่องสำอางบนหน้าแล้ว กดสิวแล้ว ปิดตาแล้ว ทาเจลเย็นๆ ทั่วหน้า(บอกทำไม)

• ก็เริ่มจากการเลเซอร์ด้วย Acne Clear Laser โดยคุณหมออาร์ม

อ่านเรื่อง Acne Clear Laser เพิ่มเติมได้ที่นี่ค่า

คุณหมออธิบายข้อดี-ข้อเสีย และ down time จากนั้นก็ลงมือ

ครั้งแรกที่แตะโดนหน้าจะรู้สึกอุ่นวาบ แต่ความอุ่นวาบยังไม่น่าตกใจเท่าแสงแลบแปร๊บทั้งที่ปิดตาอยู่ (มันแล่บในโสตประสาท)คุณหมอคงเห็นอาการตกใจเลยบอกว่า แสงที่เห็นนี่ไม่อันตรายนะครับเพราะผ่านการกรองมาแล้ว หมอเห็นเยอะกว่าคุณมู่อีก โอเค เชื่อค่ะเพราะถ้าไม่ปลอดภัยคุณหมอเห็นเยอะกว่าก็คงไม่มายืนทำให้อยู่ ณ จุดนี้เป็นอันว่าผ่านด่านแรกมาได้อย่างสบายๆ

• ขั้นต่อมาขั้นนี้เรียกได้ว่าเป็นขั้นที่ยุบยิบที่สุดเป็นการ Peeling ผิว (ผลัดเซลล์ผิวด้วย Glykopeel )

เริ่มจากที่ทาอะไรบางอย่างเพื่อปรับสภาพผิว(ที่ปกติจะเป็นด่าง) ให้มีค่าเป็นกรดเล็กน้อยเพื่อให้ผิวคุ้นเคยกับสภาพการเป็นกรด

เริ่มยุบยิบเบาๆ แต่เพื่อความสวยสีทนได้ค่ะ ต่อมายุบยิบของจริง พอเริ่มทากรดที่เอามาผลัดเซลล์จริง เริ่มคันๆ ทิ้งไว้ไม่นานก็ทาอีกตัวเป็นการคืนค่าความเป็นด่างให้กับผิวแล้วก็คลีนหน้าให้สะอาด ขั้นตอนนี้รู้สึกดีตรงที่รู้สึกว่าหน้าสะอาดขึ้น และไม่รู้สึกระคายเคือง เพราะอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว แม้แต่ผิวแพ้ง่ายอย่างข้าพเจ้า

• ขั้นตอนสุดท้ายเป็นการบำรุงขั้นตอนนี้มีจี๊ดๆ เล็กน้อย

เป็นการบำรุงด้วย DNA regenerating factor ที่อุดมไปด้วย DNA สกัดจากไข่ปลาแซลมอน และ ไฮยาลูโรนิค แอซิด ส่งผ่านสารอาหารดังกล่าวด้วย Advance Dermal Infusion

เริ่มจากการติดแผ่นกันไฟดูดที่มือ จากนั้นก็ลงครีมแล้วใช้เครื่องมือโลหะเย็นๆ มาวนทั่วหน้า จี๊ดๆ เล็กๆ จริงๆ เพลินจนอยากหลับแต่ยังไม่ทันจะหลับก็เสร็จเรียบร้อย ^^ เร็วทันใจ ออกมาจากห้องทรีตเมนท์มีกระจก แป้ง คอตตอนบัท ไว้ให้เสริมสวยก่อนกลับบ้าน ดูในกระจก ไม่เห่อ ไม่แดงเลย แต่หน้ารู้สึกตึงกระชับและเย็นมาก

กลับออกมาที่เคาน์เตอร์นึกว่าจะต้องโดนยาต่างๆ นานาเพียบแน่เลย ปรากฎมีแค่ยาก่อนล้างหน้า 1 ตัวเท่านั้น ส่วนขั้นตอนอื่นๆ สามารถใช้ที่มีอยู่ปกติได้เลย(แฮบปี้)

วันแรกก่อนทำกับหลังทำค่ะ ก่อนทำดูเนียนเพราะใช้บีบีครีม แต่พอลบเครื่องสำอางแล้วเป็นแบบนี้ T_T

หลังจากทำไปวันที่ 3 หน้าเริ่มแห้งขึ้น ทาแต่แป้งฝุ่นทุกวัน พอถึงวันที่ 7 ก็ทาแต่แป้งฝุ่น ไม่ลงบีบี ครีมใดๆ รู้สึกว่าผิวจะดีกว่าตอนลงบีบี อีกด้วยซ้ำ ^^

หลังจากที่ไปทำมาแล้ว อย่างแรกที่แฮบปี้สุดๆ กับทีนี่คือความเป็นมิตร ไม่คิดขายของเพราะตั้งแต่เรื่องยา คุณหมออาร์มไม่ได้คะยั้นนคะยอเลยว่าต้องเอายาของที่นี่ใช้อะไรของที่นี่

การให้คำแนะนำเรื่องการปฏิบัติตัว บอกเลยว่าบางทีหมอแทบจะบอกน้อยเหมือนไม่ได้บอกแต่ที่นี่คุณหมอบอกเองทุกอย่าง ทุกขั้นตอน

หลังจากทำแล้วสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่แดง ไม่ต้องทาขี้ผึ้งให้หน้ามัน ลำบากกับการใช้ชีวิตประจำวัน

ผ่านไป 2-3 วันรู้สึกหน้าเป็นปกติ ไม่เห็นจะมีอะไร มีลอกนิดๆ ตรงจมูก

ผ่านไปประมาณ 1 อาทิตย์ ลางดีเริ่มมา รูขุมขนเลกลง ไม่ลงบีบี ทาแต่แป้งหน้าเนียนเหมือนทาบีบี รอยสิวยังคงมีอยู่ให้เห็นแต่ไม่ชัดเจนอะไร หน้ามันน้อยลง

ผ่านไป 2 อาทิตย์หน้าผ่อง มีคนทักว่าหน้าเนียนไปทำอะไรมา ผ่องจังช่วงนี้มีความรักหรอ? ลองดูจากรูปถ่ายน่าจะพอเห็นความแตกต่างค่ะ